หน้าเว็บ

วันพุธที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2561

ปรัมบานัน (Prambanan) เทวสถานที่สำคัญของศาสนาฮินดู


       สวัสดีค่ะ กลับมาพบกันอีกครั้งหลังจากที่ห่างหายกันไปสักพักนะคะ  โพสต์ที่แล้วเราได้พาทุกท่านไปเก็บเกี่ยวความรู้ ศาสนสถานที่สำคัญของประเทศกัมพูชา นั่นก็คือ ปราสาทพระขรรค์ นั่นเอง ส่วนในครั้งนี้ขออนุญาตเกริ่นก่อนว่าเป็นสถานที่ที่ทุกคนรู้จักกันอย่างแพร่หลายแน่นอน เพราะว่าเป็นสถานที่ไฮไลท์ของบริษัททัวร์ต่างๆ เวลาที่เราได้เดินทางไปยังประเทศอินโดนีเซีย จะต้องไม่พลาดที่จะแวะชมสถานที่แห่งนี้ หากใครกำลังตั้งคำถามในใจว่า เป็นสถานที่ไหนกันนะ?? เราพร้อมจะให้คำตอบทุกท่านแล้วค่ะ ตามมาดูกันเลย ↓↓↓↓↓↓↓↓

ปรัมบานัน 


ที่มา : https://www.expedia.co.th/Prambanan-Temple-Yogyakarta.d6106384.Place-To-Visit


       จันดีปรัมบานัน (Candi Prambanan) มีชื่อเป็นทางการว่า กลุ่มวัดพรัมบานัน (Prambanan Temple Compounds)  เป็นเทวสถานในศาสนาฮินดูที่ใหญ่ที่สุดในประเทศอินโดนีเซีย ตั้งอยู่ที่ จังหวัดชวากลาง เกาะชวา ประเทศอินโดนีเซีย


ที่มา : https://www.expedia.co.th/Prambanan-Temple-Yogyakarta.d6106384.Place-To-Visit


ปรัมบานัน เป็นเทวสถานที่สร้างขึ้นเมื่อราวปี พ.ศ.1390 เพื่ออุทิศถวายแด่เทพเจ้าที่ยิ่งใหญ่ทั้ง 3 องค์ของศาสนาฮินดู ได้แก่ พระพรหม พระนารายณ์ พระอิศวร และสัตว์เทพพาหนะ นับได้ว่าเป็นสิ่งก่อสร้างที่สำคัญไม่น้อยกว่าบุโรพุธโธเลย


ที่มา : https://www.expedia.co.th/Prambanan-Temple-Yogyakarta.d6106384.Place-To-Visit


โดยปรัมบานันนั้นเป็นสิ่งก่อสร้างที่มีความโดดเด่น คือ มีเทวาลัยจำนวนมากถึง 200 หลัง โดยมีเทวาลัยขนาดใหญ่ 3 หลังตั้งอยู่กลางกลุ่มเทวาลัย หันหน้าประตูทางทิศตะวันออก ออกแบบคล้ายเจดีย์ทรงกลีบมะเฟืองซึ่งได้รับอิทธิพลมาจากศิลปะอินเดีย โดยเทวาลัยหลังตรงกลาง มีขนาดใหญ่ที่สุดและมีความสูงถึง 47 เมตร  เป็นเทวาลัยที่สร้างขึ้นถวายแด่พระอิศวร ส่วนเทวาลัยอีก2หลังมีขนาดเล็กกว่าที่อยู่ทางทิศเหนือสร้างขึ้นเพื่อถวายแด่พระนารายณ์และทางทิศใต้สร้างขึ้นเพื่อถวายแด่พระพรหม 


 ที่มา : https://www.expedia.co.th/Prambanan-Temple-Yogyakarta.d6106384.Place-To-Visit




 ที่มา : https://www.expedia.co.th/Prambanan-Temple-Yogyakarta.d6106384.Place-To-Visit




ที่มา : https://www.expedia.co.th/Prambanan-Temple-Yogyakarta.d6106384.Place-To-Visit



ปรัมบานันเป็นกลุ่มสิ่งก่อสร้างที่ถูกสร้างด้วยหินจำนวนมาก มีแนวกำแพงล้อมรอบ ความโดดเด่นทางสถาปัตยกรรมของปรัมบานัน คือ เทวาลัยและภาพแกะสลักนูนตามกำแพงที่ประณีตและสวยงามเป็นอย่างมาก โดยแกะสลักเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับบรรดาเทพเจ้า เรื่องรามายณะและตำนานอื่นๆ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ ความงดงาม และความสำคัญของศาสนาฮินดูในอดีต


ที่มา : https://www.expedia.co.th/Prambanan-Temple-Yogyakarta.d6106384.Place-To-Visit




ที่มา : https://www.expedia.co.th/Prambanan-Temple-Yogyakarta.d6106384.Place-To-Visit

หลังจากที่ปรัมบานันถูกสร้างเสร็จได้ไม่นาน ก็ถูกปล่อยทิ้งให้ทรุดโทรมตามกาลเวลา เมื่อศตวรรษที่ 17 ได้เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ทำให้ปรัมบานันได้รับความเสียหายอย่างหนัก เหลือเพียงไม่ถึง 10 หลังเท่านั้นที่ยังคงสภาพสมบูรณ์อยู่ แต่ในปีพ.ศ.2473 เขตโบราณสถานนี้ก็ได้รับการบูรณะปฏิสังขรณ์ภายใต้การช่วยเหลือของประชาคมระหว่างประเทศ ในเวลาต่อมาเมื่อปีพ.ศ. 2549 ได้เกิดแผ่นดินไหวขึ้นอีกครั้ง ซึ่งสร้างความเสียหายให้แก่เทวาลัยที่เหลืออยู่ ทำให้ได้มีโครงการบูรณปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่อีกครั้ง โดยใช้เวลานานถึง 6 ปี เทวาลัยหลักทั้ง 3 หลังก็กลับมางดงาม และได้เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมจนถึงปัจจุบัน


ที่มา : https://www.expedia.co.th/Prambanan-Temple-Yogyakarta.d6106384.Place-To-Visit




ที่มา : https://www.expedia.co.th/Prambanan-Temple-Yogyakarta.d6106384.Place-To-Visit


       ปราสาทหินปรัมบานันได้รับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญครั้งที่ 15 ภายใต้ชื่อ "กลุ่มวัดปรัมบานัน (Prambanan Temple Compounds) " เมื่อปีพ.ศ. 2534 ที่เมืองคาร์เทจ โดยมีคุณสมบัติตรงตามข้อกำหนดและหลักเกณฑ์ในการพิจารณามรดกโลกด้านวัฒนธรรม

       🌈🌈🌈🌈🌈🌈🌈🌈🌈🌈🌈🌈🌈🌈🌈🌈🌈🌈🌈🌈🌈🌈🌈🌈🌈


       จบไปแล้วนะคะกับการแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของศาสนาฮินดู แล้วก็ยังได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกด้วยนะ จะเห็นได้ว่าเป็นสถานที่ที่เก่าแก่และมีความสำคัญกับศาสนาฮินดูเป็นอย่างมาก สำหรับท่านใดที่กำลังมองหาสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ "กลุ่มวัดปรัมบานัน"เป็นสถานที่หนึ่งที่เราแนะนำให้ทุกท่านได้ไปชมด้วยตัวเอง เดินทางสะดวกและยังใกล้กับประเทศเราอีกด้วยนะ แต่ที่สำคัญคือ ก่อนออกเดินทางต้องตรวจสอบสภาพอากาศกันด้วยนะคะทุกคน🌄🔥☔ ไม่งั้นจะเที่ยวไม่สนุกเลยแหละค่ะ 😂😂😁 ในครั้งหน้าเราจะพาทุกท่านไปรู้จักกับสถานที่แห่งไหน ต้องรอติดตามชมกันนะคะ SEE YA ! 💛







เอกสารอ้างอิง


นัชรี อุ่มบางตลาด. (ม.ป.ป.). มรดกโลกในอินโดนีเซีย2 : กลุ่มวัดพรัมบานัน. สืบค้นเมื่อ 19 กันยายน 2561. จาก http://aseannotes.blogspot.com/2014/07/2_13.html

ปรัมบานัน อีกหนึ่งความมหัศจรรย์แดนอิเหนา. (2560). ปรัมบานัน อีกหนึ่งความมหัศจรรย์แดนอิเหนา. สืบค้นเมื่อ 19 กันยายน 2561. จาก http://gothailandgoasean.tourismthailand.org/th/ปรัมบานัน-อีกหนึ่งความมหัศจรรย์แห่งแดนอิเหนา/

ปรัมบานัน. (2561). ปรัมบานัน. สืบค้นเมื่อ 19 กันยายน 2561. จาก https://th.wikipedia.org/wiki/ปรัมบานัน

mollyboo. (2556). วัด ปรัมบานัน มรดกโลก Prambanan อินโดนีเซีย. สืบค้นเมื่อ 19 กันยายน 2561. จาก https://travel.mthai.com/blog/73785.html

วัดพรัมบานัน. (ม.ป.ป.). วัดพรัมบานัน. สืบค้นเมื่อ 19 กันยายน 2561. จาก https://www.expedia.co.th/Prambanan-Temple-Yogyakarta.d6106384.Place-To-Visit


วันจันทร์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2561

ปราสาทพระขรรค์ ศาสนสถานที่สำคัญในประวัติศาสตร์

           
         สวัสดีค่ะ กลับมาเจอกันอีกครั้งแล้วนะคะ วันนี้ทุกท่านคิดว่า เราจะไปแนะนำสถานที่ไหนกันเอ่ย?? ในครั้งที่แล้วเราได้พาทุกท่านไปเยี่ยมชมประเทศเวียดนามกันเป็นที่เรียบร้อย มาวันนี้เราจะพาทุกท่านไปยังสถานที่ที่นับว่าเป็นจุดท่องเที่ยวที่สำคัญที่ทุกท่านจะต้องไม่พลาด ถ้าหากไปยังประเทศนี้แน่นอน ตามมาดูกันเลยค่ะ :) 


ปราสาทพระขรรค์


ที่มา http://www.thapra.lib.su.ac.th/supat/slide/result.php?pageNum_rs=113&totalRows_rs=1884&check=suit&keyword=23&Submit32=Search


             ปราสาทพระขรรค์ เป็นปราสาทหินที่ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 1734 ในยุคท้ายๆของอาณาจักรเขมร สมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7  ตั้งอยู่ที่เมืองเสียมเรียบ ประเทศกัมพูชา


http://www.thapra.lib.su.ac.th/supat/slide/result.php?pageNum_rs=113&totalRows_rs=1884&check=suit&keyword=23&Submit32=Search


ปราสาทพระขรรค์ เป็นพุทธศาสนสถานสมัยบายน เป็นศิลปะแบบบายน ที่พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ทรงสร้างขึ้นเพื่ออุทิศถวายแด่พระเจ้าธรณินทรวนมันที่ 2  ผู้เป็นพระราชบิดา ปรากฎเป็นเจดีย์ทรงระฆังคว่ำขนาดเล็ก สลักด้วยศิลาทรายตั้งอยู่ภายในปราสาทองค์หนึ่ง ซึ่งเชื่อว่าเป็นที่เก็บอัฐิของพระราชบิดาของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7  โดยสร้างขึ้นหลังจากสร้างปราสาทตาพรหมที่อุทิศให้พระมารดาแล้ว 5 ปี


http://www.thapra.lib.su.ac.th/supat/slide/result.php?pageNum_rs=113&totalRows_rs=1884&check=suit&keyword=23&Submit32=Search


เป็นศาสนสถานที่ล้อมรอบด้วยกำแพงศิลาแลง ตัวอาคารโรมันมีลักษณะที่เด่น คือก่อสร้างด้วยศิลา 2 ชั้น โดยใช้เสาหินทรายกลมขนาดใหญ่รับน้ำหนักโครงสร้างและคาน ทั้งชั้นบนและชั้นล่างและยังสันนิษฐานไม่ได้ว่าสร้างขึ้นมาด้วยจุดประสงค์ใด  อีกทั้งที่บานประตูแต่ละปราสาท มีรูปสลักอสูรเป็นคู่ๆ ยืนถือกระบองเปรียบเสมือนการคอยพิทักษ์ดูแลศาสนสถานแห่งนี้ 


http://www.thapra.lib.su.ac.th/supat/slide/result.php?pageNum_rs=113&totalRows_rs=1884&check=suit&keyword=23&Submit32=Search


บริเวณที่สร้างปราสาทพระขรรค์  ในสมัยก่อนถูกเรียกว่าเป็นทะเลแห่งเลือด เพราะบริเวณนี้เคยเป็นสมรภูมิรบระหว่างชาวขอมที่อยู่ในเมืองพระนครและชาวจาม ในสงครามครั้งนั้นชาวขอมเป็นฝ่ายชนะ จึงเรียกปราสาทนี้ว่าปราสาทชัยศรี แต่ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็นปราสาทพระขรรค์ มีความหมายคือ พระแสงดาบที่ทำให้พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ชนะอริราชศัตรู  


http://www.thapra.lib.su.ac.th/supat/slide/result.php?pageNum_rs=113&totalRows_rs=1884&check=suit&keyword=23&Submit32=Search


ปราสาทพระขรรค์ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 340 ไร่ มีกำแพงที่ซับซ้อน มีสิ่งปลูกสร้างจำนวนมากพังทลายลงเนื่องจากต้นสะปงเจริญเติบโตหรือต้นไม้ล้มลงมาทับ  ภายในตัวปราสาทจะเห็นรูปแกะสลักเทพธิดาประดับอยู่เช่นเดียวกับโบราณสถานอื่นๆ มีรูปนางอัปสรตั้งอยู่ในหอรำ มีเสานางเรียงเป็นทางเข้าปราสาททั้งด้านทิศตะวันตกและทิศตะวันออกของตัวปราสาท เรียงแถวยาวประมาณ 300 เมตร ตรงกำแพงมีรูปสลักนูนสูงของครุฑขนาดเท่าตัวกำแพงศิลาแลง โดยมือทั้งสองข้างจะจับหางนาคและขาทั้งสองข้างจะจับลำตัวของนาค ซึ่งประติมากรรมลักษณะนี้จะพบเห็นได้ข้างโคปุระที่กำแพงปราสาททั้งสี่ทิศ มีลักษณะโดดเด่น และยังมีสะพานนาคและทับหลังต่างๆที่ถูกแกะสลักออกมาได้อย่างละเอียดและงดงาม


http://www.thapra.lib.su.ac.th/supat/slide/result.php?pageNum_rs=113&totalRows_rs=1884&check=suit&keyword=23&Submit32=Search


สำหรับการเดินทางมายังปราสาทพระขรรค์ เราสามารถเดินทางมาได้ง่ายๆโดย เดินทางข้ามมายังประเทศกัมพูชา อย่าลืมนะว่าประเทศนี้ไม่ต้องขอวีซ่า จากนั้นก็นั่งรถทัวร์เข้ามาเยี่ยมชมได้เลย โดยจะมีมัคคุเทศก์ท้องถิ่นคอยต้อนรับและให้เรียกใช้บริการกันอยู่แล้ว สำหรับช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการเยี่ยมชมคือ ช่วงเช้า เพราะอากาศกำลังดีและไม่ร้อนมากจนเกินไป  😄😄

http://www.thapra.lib.su.ac.th/supat/slide/result.php?pageNum_rs=113&totalRows_rs=1884&check=suit&keyword=23&Submit32=Search


         ก็จบกันไปอีกแล้วนะคะสำหรับสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ที่เราได้นำเสนอทุกๆท่านไป ปราสาทแห่งนี้นับว่าเป็นปราสาทที่ไม่ค่อยมีผู้คนเข้ามาชมมากนัก แต่ก็เป็นปราสาทที่มีความสำคัญเป็นอย่างมากในประวัติศาสตร์ การเดินทางมาเยี่ยมชมก็แสนจะง่ายและยังประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากอีกด้วย สำหรับใครที่ต้องการจะออกทริปส่วนตัวก็สามารถทำได้เช่นกัน


🌈🌈🌈🌈🌈🌈🌈🌈🌈🌈🌈🌈🌈🌈🌈🌈🌈🌈🌈🌈🌈🌈

          สำหรับครั้งหน้าเราจะพาทุกท่านไปรู้จักกับสถานที่ใหม่ๆแห่งไหน ประเทศอะไร จะงดงามหรือน่าอัศจรรย์ขนาดไหน ต้องรอติดตามชมกันได้ในครั้งหน้านะคะ SEE YA !  💛










อกสารอ้างอิง

ปราสาทพระขรรค์. (2556). ปราสาทพระขรรค์. สืบค้นเมื่อ 8 กันยายน 2561. จาก https://th.wikipedia.org/wiki/ปราสาทพระขรรค์

ปราสาทพระขรรค์ภายในนครธม (พ.ศ.1734). (ม.ป.ป.). ปราสาทพระขรรค์ภายในนครธม (พ.ศ.1734). สืบค้นเมื่อ 8 กันยายน 2561. จาก http://www.thailandsworld.com/th/angkor/preah-khan/index.cfm

โอเชี่ยนสไมล์ทัวร์. (ม.ป.ป.). ข้อมูลท่องเที่ยวประเทศกัมพูชา. สืบค้นเมื่อ 8 กันยายน 2561. จาก http://www.oceansmile.com/KHM/Nakpan.htm

วรรณวิภา สุเนต์ตา. (2560). ปราสาทพระขรรค์กำปงสวาย ในเส้นทางของอาณาจักรและเครือข่าย สมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7. สืบค้นเมื่อ 9 กันยายน 2561. จาก https://www.silpa-mag.com/club/art-and-culture/article_8530