ที่มา : http://www.singhsabhacanada.com/wp-content/uploads/2015/02/
นางโคสุรภี
การกวนเกษียรสมุทร
ตามตำนานกล่าวไว้ว่าครั้งหนึ่งมีเทพและยักษ์ได้สู้รบเพื่อแย่งดินแดนที่แต่เดิมนั้นเป็นของยักษ์ ในช่วงเวลานั้นทั้งเหล่าเทพและยักษ์ต่างก็มีอิทธิฤทธิ์ไม่แพ้กัน เนื่องจากต่างฝ่ายต่างได้รับพรจากพระศิวะและพระพรหม ซึ่งกล่าวไว้ว่าหากใครที่ประพฤติดี บำเพ็ญเพียรจนเป็นที่น่าพอใจ พระศิวะและพระพรหมก็จะประทานพรให้โดยไม่แบ่งแยกฝ่าย แต่ในเวลาต่อมาจึงได้มีพระพิฆเนศ ซึ่งหมายถึงการสร้างอุปสรรค เข้ามาคอยขัดขวางทำให้การเข้ามาขอพรนั้นยากขึ้น และพระอินทร์เป็นผู้นำทัพของฝ่ายเทพนั้นต้องการที่จะยึดดินแดนส่วนนี้ให้ได้ จึงได้ไปขอความช่วยเหลือจากพระศิวะและพระพรหม เนื่องจากตนนั้นถูกสาปให้ไม่มีฤทธิ์อำนาจ แต่ท่านทั้งสองไม่เห็นด้วย จึงไปขอร้องพระวิษณุให้ช่วยเหลือ
ที่มา : http://www.pikanetcnx.com/home/post03062018424/
พระวิษณุจึงแนะนำให้ไปทำพิธีกวนเกษียรสมุทรในทะเลน้ำนม หากทำสำเร็จก็จะได้น้ำอมฤตมาดื่ม เพราะน้ำอมฤตสามารถทำให้มีพลังและเป็นอมตะ แต่การทำพิธีกวนเกษียรสมุทรนั้นเป็นไปได้ยากเพราะต้องใช้กำลังพลจำนวนมาก พระอินทร์จึงได้ยื่นข้อเสนอให้กับฝ่ายยักษ์ให้มาช่วยกันทำพิธีนี้ อีกทั้งยังออกอุบายว่าหากเรากวนน้ำอมฤตได้เท่าไหร่ค่อยนำมาแบ่งกันภายหลัง และได้ชักชวนให้นาควาสุกรีมาใช้ลำตัวแทนเชือกเพื่อทำพิธีนี้ และได้นำเขามันทรคีรีมาตั้งบนทะเลน้ำนมแห่งนี้ และมีพระวิษณุอวตารลงมาเป็นเต่าเพื่อรองรับภูเขามันทรคีรีที่เป็นไม้ที่ใช้ในการกวน ซึ่งในระหว่างการทำพิธีการกวนเกษียรสมุทร นาควาสุกรีซึ่งได้รับตวามเจ็บปวดจึงได้พ่นไฟพิษออกมา และในขณะเดียวกันนั้นก็ได้มีของวิเศษออกมาก่อนน้ำอมฤต เช่น ดวงจันทร์ ช้างเผือกเอราวัณ โคสุรภี สังข์ หริธนู ปวงเทพีอัปสรสวรรค์ เป็นต้น โดยการทำพิธีกวนเกษียรสมุทรนี้ใช้ระยะเวลานานเป็นพันๆปี ท้ายที่สุดแล้วก็มีแต่เหล่าเทพที่ได้ดื่มน้ำอมฤตและได้ดินแดนแห่งนี้ไป เพราะเหล่ายักษ์มัวแต่สนใจเหล่านางอัปสรสวรรค์จนไม่ทันเหล่าเทพที่ดื่มน้ำอมฤตจนหมด
ตำนานโคสุรภี
กามเธนุ (kamadhenu) หรือ สุรภี หมายถึง วัวของเทพเจ้า เป็นวัวที่สามารถทำพรให้เป็นจริงสมปรารถนา คำว่า "กามะ" แปลว่า ความปรารถนา และ "เธนุ" แปลว่า ผู้ให้ โคสุรภีเกิดมาจากการทำพิธีกวนเกษียรสมุทร ระหว่างฝ่ายยักษ์และฝ่ายเทพที่ต้องการน้ำอมฤตมาดื่มเพื่อให้มีพลังและความเป็นอมตะ โดยพระกัศยปะมีความต้องการที่จะได้นางโคสุรภีมาเป็นพาหนะประจำองค์แต่ด้วยความจริงที่ว่า โคสุรภีนั้นเป็นโคเพศเมียจึงไม่เหมาะและต้องการโคเพศผู้มาเป็นพาหนะประจำตนมากกว่า พระกัศยปะจึงได้เนรมิตกายตนเองให้เป็นโคเพศผู้ไปผสมพันธุ์กับนางโคสุรภี จนตั้งครรภ์ และให้กำเนิดลูกโคออกมาเป็นตัวผู้สีขาวบริสุทธิ์มีลักษณะดีตรงตามตำรา จึงได้ตั้งชื่อว่า "นนทิ หรือ นันทิ" และถวายโอรสของตนให้กับพระศิวะเพื่อใช้เป็นพาหนะประจำองค์ และคอยรับใช้ท่าน
ที่มา : https://www.siamganesh.com/shiva_4.html
แม่โคสุรภีได้ให้กำเนิดกลุ่มโคชื่อ "กลิปา" เป็นกลุ่มแม่โคกลุ่มแรกที่ได้ให้กำเนิดเหล่าโคทั้งหลายในเวลาต่อมา อีกทั้งนางโคสุรภียังได้ชื่อว่าเป็นมารดาโคตนแรกของโลก และมีความเชื่อกันว่า นางโคสุรภีนั้นอาศัยอยู่ในโคโลก ปัจจุบันเป็นสัตว์เทพที่นับถือของศาสนาฮินดู นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ชาวฮินดูมีความเชื่อที่ว่าห้ามฆ่าวัวและหากมีผู้ฝ่าฝืนจะมีความผิดทางกฎหมาย อีกทั้งยังใช้เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในการกราบไหว้ หรือกระทำการอย่างไรก็ตามเพื่อความเป็นศิริมงคล สะท้อนให้เห็นถึงความใกล้ชิดธรรมะของชาวฮินดูเป็นอย่างมาก
ลักษณะของโคสุรภี
ตามตำนานกล่าวไว้ว่านางโคสุรภีเป็นเทพเจ้าหรือเทวีองค์หนึ่งที่มีความใกล้ชิดกับมนุษย์มาก มีลักษณะที่พิเศษ คือ มีเศียรเป็นมนุษย์ กายเป็นโค แต่บางตำรากล่าวไว้ต่างกันว่าเป็นแม่โคธรรมดา และนอกจากนั้น ยังมีปีกและหางเป็นนกยูง มีพระเจ้าสถิตอยู่ทุกส่วนของร่างกาย กล่าวคือ ขาทั้งสี่มีพระเวท 4 เล่มและภูเขาหิมาลัยสถิตอยู่ ปลายเขามีพระพรหม กลางเขามีพระนารายณ์และโคนเขามีพระศิวะ ดวงตามีพระจันทร์และพระอาทิตย์สถิตอยู่ หัวไหล่มีอัคนีเทพและวายุเทพสถิตอยู่ อีกทั้งใต้ท้องของพระนางก็ยังมีคนทุกชนชาติอาศัยอยู่เพื่อดื่มน้ำนมจากเต้าของตน
ที่มา : https://www.thairath.co.th/content/813962
ที่มา : https://www.wordzz.com/cow-symbol-earth/gau-mata/
ลักษณะงานศิลปะ
ตัวอย่างงานศิลปะของโคสุรภีที่เราสามารถพบเห็นกันได้จะเป็นงานจิตรกรรมและงานประติมากรรมจำนวนไม่มากนัก เนื่องจากพระนางเป็นเพียงแม่โคที่ให้กำเนิดโคนนทิ ซึ่งเป็นพาหนะของพระศิวะ เราจึงพบเห็นงานศิลปะของโคนนทิเป็นส่วนใหญ่ เพราะตามภาพแกะสลักของพระศิวะก็จะมีโคนนทิคู่ประจำองค์เสมอ ส่วนงานศิลปะของพระโคสุรภี หรือ แม่โคกามเธนุ ที่เราพบเห็นกันตัวอย่างเช่น
ที่มา : https://en.m.wikipedia.org/wiki/Kamadhenu?fbclid=IwAR0gZBAZ-2rPenVgd-WkH8p9tNE7yAHUTAeE-WdYg3JoHWOydzSOgsKlR6g
งานประติมากรรมโคกามเธนุ ที่ถ้ำบาตู ประเทศมาเลเซีย
เป็นงานประติมากรรมที่อ้างอิงลักษณะของพระโคสุรภีมากจากภารตะนิยาย ภายในถ้ำเป็นสถานที่ประกอบพิธีที่สำคัญของศาสนาฮินดู และเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำหรับชาวต่างชาติได้เข้าชมความงามของศิลปะเกี่ยวกับความเชื่อเรื่องเทพเจ้าของศาสนาฮินดู
ที่มา : https://www.voicetv.co.th/read/533485
งานภาพเขียนโคสุรภีเคียงคู่กับฤาษี
ที่มา : https://www.the-saleroom.com/en-us/auction-catalogues/christies-south-kensington/catalogue-id-srchristi10068/lot-8285182c-c976-4374-b6bb-a421015aa6da
งานภาพเขียนโคสุรภีเคียงคู่กับฤาษี
ที่มา : https://www.the-saleroom.com/en-us/auction-catalogues/christies-south-kensington/catalogue-id-srchristi10068/lot-8285182c-c976-4374-b6bb-a421015aa6da
งานภาพเขียนโคสุรภีเคียงคู่กับฤาษี
รูปภาพที่เขียนถึงแม่โคกามเธนุ มักออกแบบให้มีหน้าแบบผู้หญิง ตัวเป็นแม่โค เหมือนสฟิงซ์ มีภาพฤาษีเคียงคู่กัน เพราะในเวลาต่อมาแม่โคสุรภีได้ไปอาศัยอยู่กับ "ฤาษีวศิษฐ์" ซึ่งเป็นมหาฤาษีในตำนานฮินดู
เอกสารอ้างอิง
lookhin. (2555). ตำนานการกวนเกษียรสมุทร. สืบค้นเมื่อ 16 พฤศจิกายน 2561. จาก https://www.unzeen.com/article/1976/
สยามคเณศ ดอทคอม. (ม.ป.ป.). โคนนทิสัตว์เทพพาหนะแห่งพระศิวะ. สืบค้นเมื่อ 16 พฤศจิกายน 2561. จาก https://www.siamganesh.com/shiva_4.html
อารยัน. (2559). เทพเจ้าลูกครึ่งในศาสนาฮินดู. สืบค้นเมื่อ 16 พฤศจิกายน 2561. จาก https://www.thairath.co.th/content/813962
voice. (2560). เรื่องสยอง 2-3 บรรทัดครึ่ง เมื่อคัมภีร์ปุราณะ เล่าเรื่องดาร์กๆบนสวรรค์. สืบค้นเมื่อ 16 พฤศจิกายน 2561. จาก https://www.voicetv.co.th/read/533485